เทศกาลสำคัญของจังหวัดภูเก็ต
เทศกาลกินเจ
เทศกาลกินเจ
หรือ กินแจ หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9
วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ
เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนมานานแล้ว
โดยมีตำนานเล่าขานกันหลายตำนาน ปัจจุบัน
เทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย
และไทย ตลอดจนหมู่เกาะรีออในอินโดนีเซียและอาจมีในบางประเทศเอชีย เช่น ภูฏาน
ญี่ปุ่น เกาหลีไต้หวัน ฮ่องกง ซึ่งการกินเจในเดือน 9 นี้
เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา
เทศกาลพ้อต่อ
เทศกาลพ้อต่อ จะจัดประมาณ วันสารทจีน
เป็นงานที่จัดขึ้นตามความเชื่อของชาวจีน
ในประเทศไทยมีการจัดงานนี้ขึ้นในจังหวัดภูเก็ต
โดยได้รับอิทธิพลจากชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
โดยจัดตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน (ตรงกับเดือน 9
ปฏิทินจันทรคติไทย) ในช่วงเทศกาลดังกล่าวผู้คนจะหาของมาเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ
และวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลาย
วันไหว้เทวดา
วันไหว้เทวดา หรือ วันป้ายทีก้ง
เป็นประเพณีที่จัดขึ้นหลังวันตรุษจีน 9 วัน ในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจีน
ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวจีนฮกเกี้ยนในจังหวัดภูเก็ต สิงคโปร์ และมาเลเซีย
ถือเป็นการบูชาเทวดาหรือองค์หยกหองส่งเต่
เพื่อให้ท่านปกป้องคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยชาวจีนจะจัดของไหว้ ขนมบัวลอย
ผลไม้มงคลต่างๆ รวมถึงสัญลักษณ์ในประเพณี คือ ต้นอ้อย 1 คู่
ประดับด้วยการแขวนโมบายอย่างจีนที่เรียกว่า โกจี่ และขนมเจดีย์น้ำตาล ที่เรียกว่า
ทะถึง
มาตั้งไหว้บนโต๊ะใหญ่ที่รองขาให้สูงขึ้นกว่าปกติตกแต่งด้วยผ้าปูปักลวดลายพื้นสีแดงที่เรียกว่า
โต๊ะอุ๋ย จัดบริเวณหน้าบ้าน โดยจะเริ่มไหว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น.
เป็นต้นไปจนถึงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น
ตรุษจีน
ตรุษจีน เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุด ในประเทศจีน
ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ"
เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน
ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว
ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1
ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลโคมไฟ
คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี
ซึ่งเรียกว่า ฉูซี่ หรือ "การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน" เนื่องจากปฏิทินจีนเป็นแบบสุริยจันทรคติ
ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า "วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ"
เทศกาลเช็งเม้ง
ชิงหมิง หรือ เช็งเม้ง, เชงเม้ง (ตามสำเนียงแต้จิ๋ว) หรือ
"เฉ่งเบ๋ง" (ในสำเนียงฮกเกี้ยน) "เช็ง"หรือ"เฉ่ง"
หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ "เม้ง"หรือ"เบ๋ง" หมายถึง สว่าง
รวมแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์
ในประเทศไทยเทศกาลเช็งเม้ง
ถือวันที่ 5 เมษายนของทุกปีเป็นหลัก แล้วนับวันก่อนถึง 3 วัน และเลยไปอีก 3 วัน
รวมเป็น 7 วัน (2 - 8 เมษายน) แต่ในปัจจุบันเนื่องจากมีปัญหาการจราจรคับคั่ง
เลยขยายช่วงเวลาเทศกาลให้เร็วขึ้นอีก 3 สัปดาห์ (ประมาณ 15 มีนาคม - 8 เมษายน)
แต่ในภาคใต้บางพื้นที่ เช่น จังหวัดตรังจะจัดเร็วกว่าที่อื่น 1 วัน ประมาณวันที่ 4
เมษายนของทุกปี
ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน
ฮวงซุ้ย(แต้จิ๋ว) แต่คนฮกเกี้ยนเรียกว่า บ่องป้าย
เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ
ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ
ประเพณีลอยเรือชาวเล
ประเพณีลอยเรือ หรือ ลอยเรือชาวเล
เป็นพิธีกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวเลที่ยึดถือปฏิบัติและสืบทอดกันมาช้านาน
โดยชาวเลมีความเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์เพื่อให้สมาชิกในหมู่บ้านรอดพ้น
จากสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งปวง
ด้วยการขออำนาจจากผีหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านให้ช่วยขับไล่สิ่ง อัปมงคล
และรวมทั้งเป็นพิธีกรรมที่แสดงถึงความขอบคุณที่ช่วยคุ้มครองให้พวกเขาได้
อยู่รอดปลอดภัยตลอดฤดูมรสุม โดยใช้เรือเป็นพาหนะบรรทุกสิ่งชั่วร้ายออกไป
ปล่อยให้ไหลไปตามสายน้ำ
เทศกาลไหว้พระจันทร์
เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว
จะมีขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ (กันยายนตามปฏิทินสากล)
ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน
ในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง, ไต้หวัน,
สิงคโปร์ หรือเวียดนาม จะจัดเป็นประเพณีใหญ่
มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร
ทั้งนี้จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีขนมชนิดหนึ่ง เรียกว่า
"ขนมไหว้พระจันทร์" ที่มีสันฐานกลมคล้ายขนมเค้ก ทำจากแป้ง มีไส้ต่าง ๆ
เป็นธัญพืช ใช้เซ่นไหว้และรับประทานกันจนเป็นเอกลักษณ์สำหรับเทศกาลนี้
ประเพณีปล่อยเต่า
สำหรับประเพณีนี้เป็นประเพณีที่เป็นเรื่องความเชื่อของจีนที่ว่า
ในวันที่ 15 ของเดือน 7 ของจีน
นับเป็นวันครึ่งปีตามคตินิยมของจีนเป็นวันที่วิญญาณจะได้รับการปลดปล่อยให้กลับมาเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง
จึงได้มีการบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ
ตามบ้านเรือนจะตกแต่งแท่นบูชาอย่างสวยงามพร้อมทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องกงเต็ก
ส่วนดวงวิญญาณที่ไม่มีญาติ
แต่ละบ้านก็จะจัดแท่นบูชาพร้อมทั้งอาหารคาวหวานไว้ที่หลังบ้านนอกจากนี้แล้วตามศาลเจ้าต่างๆในเกาะภูเก็ตจะเต็มไปด้วยขนมและผลไม้ที่ผู้ศรัทธานำมาถวาย
ล้วนแต่แต่ได้รับการประดับตกแต่งมาเป็นอย่างดี ผลไม้บางอย่างแกะสลักอย่างสวยงาม
เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่อยู่ในบรรยากาศของพิธีนี้ยิ่งนัก
ประเพณีนี้จัดยิ่งใหญ่ทุกปี ที่บริเวณซอยโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว
ถนนตะกั่วทุ่ง ตัดถนนภูเก็ต ทางไปสะพานหิน
เครื่องที่นำมาบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ
เป็นขนมชนิดหนึ่งทำด้วยแป้งเป็นรูปเต่าขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างทาสีแดง
ซึ่งคนจีนเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนดังนั้นการไหว้เต่าจึงเป็นการต่ออายุให้ตนเองและถือเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่
ดูเพิ่มเตมได้ที่ https://sites.google.com/site/lindathaukaenoi/theskal-laea-ngan-prapheni-praca-thxng-thin-canghwad-phuket
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น